ขณะนี้มีผู้เข้าชม

เรามี 86 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

ทำอย่างไรให้ศาลรอการลงโทษในความผิดฐานพยายามฆ่า ทำร้ายร่างกายสาหัส ทำร้ายร่างกาย ทนายอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษอย่างไร ทนายเขียนคำร้องประกอบคำรับสารภาพให้รอการลงโทษอย่างไร

                เมื่อจำเลยรับสารภาพในความผิดฐานพยายามฆ่า ฐานทำร้ายร่างกายเป็นเหตุทำให้ได้รับอันตรายสาหัส ฐานทำร้ายร่างกาย ฐานพยายามทำร้ายร่างกาย  ซึ่งความผิดในลักษณะดังกล่าวนับได้ว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรง  ศาลมักมีแนวโน้มที่จะลงโทษจำคุกจำเลยเสมอ  ซึ่งก็ต้องแล้วแต่ข้อเท็จจริงเป็นสำคัญประกอบด้วย  ดังนั้นหากจำเลยสำนึกในความผิดที่กระทำลงแล้วหากประสงค์กลับตนเป็นพลเมืองดีก็ต้องดำเนินการให้ถูกต้องด้วย กล่าวคือ หากเป็นช่วงเวลาก่อนศาลชั้นต้นตัดสินควรยื่นคำร้องประกอบคำรับสารภาพ หากศาลชั้นต้นตัดสินแล้วก็ยื่นอุทธรณ์ต่อไป

                หลักการเขียนคำร้องประกอบคำรับสารภาพและการเขียนอุทธรณ์ขอให้ศาลรอการลงโทษนั้นมีความสำคัญมาก การที่ศาลจะพิพากษาลงโทษจำคุกหรือให้รอการลงโทษอยู่ที่ข้อเท็จจริงในคดี และการดำเนินการระหว่างคดี และการเขียนคำร้องประกอบคำรับสารภาพหรือวิธีการเขียนอุทธรณ์ประกอบเข้าด้วยกัน  โดยต้องมีการบรรยายข้อเท็จจริงให้ศาลเห็นเหตุที่ควรได้รับการรอการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 เช่น เรื่องอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สุขภาพ ภาวะแห่งจิต นิสัย อาชีพและสิ่งแวดล้อม สภาพความผิด และเหตุอื่นอันควรปราณี  เหล่านี้เป็นสิ่งที่จะต้องบรรยายในคำร้องประกอบคำรับสารภาพหรืออุทธรณ์  นอกจากนี้การแถลงประกอบเรียกการไม่ติดใจเอาความของผู้เสียหายก็เป็นสิ่งสำคัญมากในการใช้ดุลพินิจศาลในการรอการลงโทษ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนมากมักจากปัญหาที่ผู้เสียหายมักเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนมากเกินความจริง และไม่อาจตกลงกันได้ ฝ่ายจำเลยควรต้องทราบว่าปัญหาดังกล่าวนี้จะแก้ไขอย่างไร และจะนำเสนอข้อเท็จจริงใดให้ศาลเห็นเหตุอันควรปราณีให้จำเลยได้รอการลงโทษต่อไป

                 ในคดีความผิดฐานพยายามฆ่า ฐานทำร้ายร่างกายเป็นเหตุทำให้ได้รับอันตรายสาหัส ฐานทำร้ายร่างกาย ฐานพยายามทำร้ายร่างกาย แม้เป็นความผิดที่ร้ายแรงศาลก็สามารถรอการลงโทษได้ หากศาลเห็นข้อเท็จจริงที่ทนายความบรรยายในคำร้องประกอบคำรับสารภาพหรือในอุทธรณ์ว่ามีเหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หรือมีเหตุข้อเท็จจริงว่าอีกฝ่ายหนึ่งก่อเหตุขึ้นก่อนจำต้องป้องกันตัว หรือใช้สิทธิในฐานะเป็นสามีภรรยาปกป้องสิทธิของตนเอง หรือมีพฤติการณ์การทำร้ายที่ไม่ร้ายแรง  เป็นต้น  By www.siaminterlegal.com