รับสารภาพต้องมีทนายความหรือไม่

           เมื่อถูกฟ้องคดีอาญาไม่ว่าราษฏรฟ้องเองหรือพนักงานอัยการเป็นผู้ฟ้องคดี หากให้การรับสารภาพก็เท่ากับว่าเป็นการยอมรับว่ากระทำความผิดจริงซึ่งเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์มีความผิดแน่นอน เว้นแต่ ข้อเท็จจริงจะปรากฎต่อศาลว่าไม่เป็นความผิดไม่ว่าด้วยองค์ประกอบความผิดต่างๆ  ปกติหากให้การรับสารภาพตั้งแต่ชั้นตำรวจเมื่อส่งตัวไปยังอัยการก็จะพาตัวไปฟ้องและศาลจะพิพากษาตัดสินทันที เว้นแต่เป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูงตามที่กฎหมายกำหนด  การมีทนายความหรือไม่มีทนายความกรณีจำเลยให้การรับสารภาพนี้มีความแตกต่างกันมาก  ประการแรกทนายความจะทำการวิเคราะห์ก่อนว่าสมควรให้การรับสารภาพหรือไม่ หากเห็นว่าควรให้การรับสารภาพก็จะจัดทำคำร้องประกอบคำรับสารภาพกล่าวอ้างเหตุที่ศาลควรลงโทษรอการลงโทษไม่สมควรต้องจำคุกจำเลยต่อไป แต่หากไม่มีทนายความจัดทำคำร้องดังกล่าวจะเป็นเหตุไม่ทราบเหตุแห่งการที่จะสมควรรอการลงโทษจำเลยไว้ก็มีโอกาสที่จำเลยจะถูกลงโทษจำคุกได้มาก  และควรให้ทนายความพิจารณาและเร่งทำคำร้องประกอบคำรับสารภาพโดยเร็วเนื่องจากชั้นฟ้องของพนักงานอัยการเมื่อฟ้องแล้วให้การรับสารภาพต่อศาลศาลจะตัดสินทันทีเพื่อความสะดวกของการดำเนินคดีหากไม่มีเอกสารดังกล่าวหรือไม่ได้จัดเตรียมไว้ก่อนศาลย่อมไม่ทราบเหตุที่สมควรรอการลงโทษเพื่อประกอบการพิพากษาคดีในวันฟ้องคดีได้  เหตุที่จะบรรเทาโทษได้ เช่น อายุ เพศ พฤติการณ์กระทำผิด ประวัติเคยถูกดำเนินคดีอาญาหรือคดีอื่นๆ ภาระหน้าที่เลี้ยงดูบิดามารดา บุตร หน้าที่การงาน และหน้าที่เลี้ยงดูครอบครัว การชดใช้ความเสียหายบางส่วน หรือหนังสือการไม่ติดใจดำเนินคดีจากผู้เสียหาย หรือเหตุความน่าเห็นใจประการอื่นที่ศาลไม่ควรต้องจำคุกจำเลย เป็นต้น